จีนเติบโตด้วยอัตราที่สูงมานาน เราสามารถพบเห็นรถไฟความเร็วสูงตามเมืองใหญ่ ๆ ของจีน
หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2008 จีนเติบโตจากการลงทุนด้วยการกู้ยืมเงิน สร้างโรงงาน และอสังหาริมทรัพย์มากมาย แต่ลงทุนไม่ถูกที่ ไม่คุ้มค่า เกิดอสังหาริมทรัพย์ส่วนเกิน เกิดเมืองร้าง
เดี๋ยวนี้การลงทุนของจีน สร้างการเติบโตน้อยลงกว่าแต่ก่อน
จีนใช้อุตสาหกรรมในการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงเกิดปัญหามลภาวะ นครใหญ่ ๆ เกิดมลพิษทางอากาศ และน้ำเสีย
การลงทุนสร้างอุตสาหกรรมทำโดยรัฐวิสาหกิจ แต่อัดฉีดเงินจากรัฐมากเกินไป จึงเกิดกำลังการผลิตส่วนเกิน จึงต้องลดกำลังการผลิตส่วนเกินในบางสินค้า เช่น อลูมิเนียม นิเกิล สังกะสี ทองแดง เหล็ก เป็นต้น เมื่อลดกำลังการผลิต จึงต้องลดคนงานด้วย นี่เป็นคำถามว่าจีนจะทำอย่างไรต่อไป
คำตอบคือ แผน 13 ของจีน หรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของจีน
จะเป็นแผนมังกรลอกคราบ ดังนี้
1. ไปสู่ประเทศรายได้สูงในปี 2020 แปลว่าต้องเติบโตประมาณ 6.5% ต่อไปอีกพักใหญ่
2. จากการเติบโตด้วยการลงทุนที่ทำให้เกิดปัญหา ไปสู่การเติบโตด้วยการบริโภคของครัวเรือน
3. จากการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต ไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมบริการ
4. อุตสาหกรรมที่เหลืออยู่ จะต้องเป็นอุตสาหกรรมไฮเทคมากยิ่งขึ้น
5. สนใจสังคมและสิ่งแวดล้อม ต้องรักษาสิ่งแวดล้อม และควบคุมอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดมลพิษ
6. เพิ่มสวัสดิการให้ประชาชนจีน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ผลกระทบต่อไทย
ไทยพึ่งพาจีน ไทยป้อนวัตถุดิบ เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์ม แต่ตอนนี้จีนต้องการลดอุตสาหกรรม ไทยจึงต้องกระจายความเสี่ยง หาตลาดใหม่
ผลจากการพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้จีนเกิดชนชั้นกลางมากขึ้น คนมีรายได้สูงขึ้น พวกเขาต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดี และบริการที่เน้นไลฟ์ไลต์ เช่น นั่งร้านกาแฟหรู
นักท่องเที่ยวจีนที่มาเป็นกลุ่ม ในอนาคตจะมาเที่ยวด้วยตนเอง เพราะพวกเขาเคยเที่ยวมาแล้ว
เราต้องเข้าใจและรับมือ เช่น สร้างเว็บไซต์เป็นภาษาจีน และภาครัฐต้องช่วยวิจัยตลาดการบริการที่สำคัญ จีนเป็นประเทศใหญ่ ผู้บริโภคแต่ละเมืองมีพฤติกรรมที่ไม่เหมือนกัน ต้องวิเคราะห์แยกเป็นแต่ละเมือง
ไทยต้องปรับตัวก่อนจีนจะหันหน้าไปทางอื่น
No comments:
Post a Comment