Saturday, October 24, 2020

 ภาษาอังกฤษสำหรับการท่องเที่ยว

สำนวนหากิน

Sorry!
Pardon me!
Excuse me!
ขอโทษนะคะ

Could you speak more slowly, please?
พูดให้ช้าลงหน่อยได้ไหมคะ 🙂
I don't understand. หนูไม่เข้าใจคะ
Could you repeat that? ช่วยทวนอีกครั้งได้ไหมคะ
Could you say that again? ช่วยพูดใหม่อีกครั้งได้ไหมคะ
Could you explain it? ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมคะ
What does it mean? มันหมายความว่าอย่างไรคะ

What's...in English?
...ถ้าเป็นภาษาอังกฤษมันคืออะไรคะ
How do you say....in English?
...พูดเป็นอังกฤษว่าอย่างไรคะ
How do you spell that? สะกดยังไงคะ
Could you speak more clearly? พูดให้ชัดเจนกว่านี้ได้ไหมคะ
How do you pronounce this word? อ่านออกเสียงคำนี้ว่าอย่างไรคะ

Saturday, August 24, 2019

สรุปหนังสือ The 100-Year Life

สรุปหนังสือ The 100-Year Life
Living and working in an age of longevity
เรียนรู้และทำงานอย่างไรในยุคคนอายุยืนขึ้น

คนหนุ่มสาวแต่ก่อน เรียน-ทำงาน-เกษียณ

คนหนุ่มสาวสมัยนี้ เรียน ท่องเที่ยว ลองทำงาน เปลี่ยนงาน ท่องเที่ยว กลับมาทำงาน วนไป แล้วค่อยเกษียณ
มีชีวิตที่ไม่ผูกติดกับอายุ ยืดหยุ่น และไร้พันธะ

เพราะคิดว่า จะมีอายุยืนขึ้น จึงขอลองหน่อย ความหลากหลายคือรสชาติของชีวิต หรือ Variety is the spice of life.
ฝรั่งเรียกคนเหล่านี้ว่า หนุ่มสาวรุ่นใหม่ ไฝ่หาทางเลือก (Young Adults Holding Options หรือ Yahoos)

สิ่งที่พวกเขาต้องเตรียมคือ
- ทรัพย์สิน
- ทักษะและความรู้ใหม่ ๆ
- สุขภาพและความสัมพันธ์

และที่สำคัญ ทรัพย์สินเพื่อการเปลี่ยนผ่าน แปลว่า ความใจกว้าง เปิดใจ และเครือข่าย เพื่อหางานใหม่

สร้างสมดุลระหว่าง เงินกับทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้

การพักผ่อน หรือ recreation จะเปลี่ยนเป็นการสร้างใหม่ re-creation แปลว่า เสาร์อาทิตย์จะไม่ได้พักผ่อนแล้ว ต้องหาความรู้และสร้างทักษะใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อการเปลี่ยนงาน

มีการออมเพื่อเกษียณ และออมเพื่อการเปลี่ยนงาน

รัฐบาลต้องลงทุนให้การศึกษาแก่คนหลาย ๆ รุ่น มหาวิทยาลัยจะมีคนแก่มาเรียนเพิ่มเติมมากขึ้น
นายจ้างต้องเข้าใจการเปลี่ยนงานหลายช่วง และการจ้างงานแบบใหม่ ที่ยืดหยุ่นและไม่ผูกพัน

5G จะเปลี่ยนไทยภายใน 2 ปี

5G จะเปลี่ยนไทยภายใน 2 ปี
สำคัญมากต่อภาคการผลิต

จุดเด่นของ 5G
- ความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ ตอบสนองได้ทันที 1/1000 วินาที การเชื่อมต่อที่ล้ำเลิศกับอินเตอร์ของสรรพสิ่ง (Internet of Things, IOTs)- เร็วกว่า 4G หลาย 10 เท่า

1. เตรียมคลื่น
2. สร้างการแข่งขัน
3. เติมเต็มการกำกับดูแล

ต้องแน่ใจว่าคลื่นเหล่านี้ว่างที่จะนำมาใช้
คลื่นที่รัฐวิสาหกิจ และเอกชนถืออยู่ ควรตรวจดูความถูกต้อง หรือเรียกคืน
จัดสรรคลื่นใหม่ (refarming)
วางโรดแมปประมูลคลื่น
ต้องเปิดเสรี ออกใบอนุญาตให้รายใหม่ เช่น ให้พื้นที่ที่มีอุตสาหกรรมเยอะ ๆ อย่าง EEC ออกใบอนุญาตให้รายใหม่ ไม่ใช่แค่ 3 รายอย่างที่รู้กันอยู่
ความเป็นส่วนตัว (privacy)
กฎระเบียบใหม่ที่ออกมากำกับดูแล (laws and regulations)
และความโปร่งใสของการดำเนินธุรกิจ (transparency)


ไทยต้องเตรียมรับ 5G ดังนี้
5G ใช้คลื่นความถี่ต่ำ (ใช้กับรถไฟความเร็วสูง และทีวีอนาล็อก) กลาง (ใช้กับทีวีดาวเทียม) และสูง
การโทรคมนาคม เป็นหัวใจบริการ 5G
คำนึงถึงความปลอดภัย เช่น ผ่าตัดทางไกล (remote surgery หรือ telesurgery) อันตรายถ้าโดนแฮก

Friday, August 23, 2019

เส้นทางสายไหมใหม่ของจีน กับอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมือง

เส้นทางสายไหมใหม่ของจีน new silk road ทำให้จีนมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองมากขึ้น

ไทย อาเซียน เกาหลี และญี่ปุ่น กำลังถูกจีนดูด

ไทยถูกดูด ทางด้านเศรษฐกิจ เช่น ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุน ทั้งหมดนี้ไทยพึ่งพาจีน สร้างเม็ดเงินให้ไทยประมาณ 1 ล้านล้านบาท

จีนเคยคว่ำบาตรญี่ปุ่น จากข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะ โดยการไม่ส่งแร่หายากไปยังญี่ปุ่น ทำให้โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ได้รับผลกระทบ

ฟิลิปปินส์ มีปัญหาเรื่องดินแดนกับจีน จีนจึงห้ามนำเข้ากล้วย โดยอ้างว่ามีแมลงและไม่ผ่านมาตรฐาน

เกาหลีใต้ไปติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ จีนไม่พอใจ จึงชักชวนให้คนจีนห้ามไปเที่ยวเกาหลีใต้

ถ้าหากจีนจะคว่ำบาตรไทย ก็เพียงแค่ห้ามนำเข้าทุเรียนและมังคุด แค่นี้เกษตรกรไทยก็ประท้วงกันใหญ่แล้ว

โชคดีที่ไทยไม่มีปัญหาเรื่องพรมแดนกับจีน
แค่ไทยมีอำนาจต่อรองลดลง ยกตัวอย่างเช่น
ไทยต้องซื้ออาวุธและเรือดำน้ำจากจีน
ไทยต้องจ้างจีนทำรถไฟความเร็วสูง
ไทยอนุญาตให้จีนระเบิดเกาะแก่งแม่น้ำโขง

ไทยต้องปรับตัว ดังนี้
แสวงหาผลประโยชน์ร่วมทางด้านเศรษฐกิจ
ส่วนทางด้านการเมืองไทยเว้นระยะห่าง
หาตลาดใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง
กลับสู่ประชาธิปไตย ฟื้นฟูสัมพันธ์กับชาติตะวันตก เพื่อที่จะได้มีอำนาจมาถ่วงดุลกับจีน

Thursday, August 22, 2019

สูตร SWAN ในการรับคนเข้าทำงาน

สรุปบางส่วนจากหนังสือเรื่อง Full Engagement หนังสือที่ HR ควรอ่าน

สูตร SWAN ในการรับคนเข้าทำงาน 
S.W.A.N คือ 
Smart ฉลาด
Work hard ทำงานหนัก
Ambitious ทะเยอทะยาน
Nice น่าคบ

มองหาคนฉลาด (Smart)งานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ความฉลาดสามารถทำนายความสำเร็จของเราในการเริ่มทำงานได้แม่นยำถึง 72% ยิ่งผู้สมัครฉลาดมากเท่าไหร่ เขาก็น่าจะเหมาะกับงานมากเท่านั้น

แล้วความฉลาดวัดได้จากอะไรหล่ะ???

คำตอบคือ
1. ประวัติการศึกษา ยิ่งเรียนสูงมากเท่าไหร่ ก็น่าจะฉลาดมากเท่านั้น
2. ปริมาณหนังสือที่อ่านและการพัฒนาตนเอง ยิ่งรักการอ่าน ฟังเรื่องที่ให้ความรู้ และลงเรียนหลักสูตรเพิ่มเติมมากเท่าไหร่ เขาน่าจะฉลาดและทำงานได้ดีมากเท่านั้น

วิธีคัดแยกผู้สมัครแย่ ๆ ออกจากผู้สมัครดี ๆ คือ ถามคำถามแรกว่า
“ช่วยพูดถึงหนังสือที่คุณอ่าน สิ่งที่คุณฟัง และหลักสูตรที่คุณเคยเข้าอบรมเพื่อพัฒนาตนเองและการทำงานหน่อยได้ไหมครับ”

เป็นไปได้ว่าตัวชี้วัดความฉลาดได้ดีที่สุดคือ...
ความสงสัยใคร่รู้ คนฉลาดจะตั้งคำถามมากมาย อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท สินค้าและบริการ และอนาคตของบริษัท ความเป็นไปของธุรกิจ และแนวทางการพัฒนาตนเองถ้าหากได้เข้ามาร่วมงานกับบริษัท พวกเขารู้สึกสนใจและอยากมีส่วนร่วมกับคุณ

Sunday, August 18, 2019

จ้างนักเขียนชั้นยอด (Hire great writers)

สรุปส่วนหนึ่งจากหนังสือ Rework หนึ่งในหนังสือธุรกิจที่ควรอ่าน

จ้างนักเขียนชั้นยอด (Hire great writers)

ถ้ามีคนสักสองสามคนให้คุณเลือกเข้าทำงาน จงจ้างคนที่เขียนดีที่สุด ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเป็นใคร นักการตลาด นักขาย นักออกแบบ โปรแกรมเมอร์ หรือใครก็แล้วแต่ ทักษะการเขียนอันชั้นยอดของเขาจะเป็นผลดีต่อบริษัท

เพราะว่า การเป็นนักเขียนที่ดีนั้น เป็นมากกว่าแค่การเขียน หมายความว่า งานเขียนที่ชัดเจน บ่งบอกถึงความคิดที่ชัดแจ้ง
นักเขียนชั้นยอด รู้ว่าควรจะสื่อสารอย่างไร พวกเขาทำเรื่องต่าง ๆ ให้เข้าใจง่าย พวกเขาเข้าใจหัวอกของผู้อ่าน พวกเขารู้ว่าอะไรควรเขียนหรือไม่ควรเขียน สิ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติที่คุณต้องการในตัวผู้สมัคร

คอยสังเกตดูว่าผู้คนส่งอีเมล์ (to email) หรือ ส่งข้อความ (to text-message) สื่อสารกันอย่างไร มากกว่าดูแค่การพูดุคยทางโทรศัพท์ (to talk on the phone)
ดูว่ามีการสื่อสารมากเพียงใดผ่านทางการแชท (instant messaging) และ การเขียนบล็อก (blogging)

การเขียน คือสิ่งที่แพร่หลายในปัจจุบัน สำหรับการผลิตไอเดียดี ๆ

Saturday, August 17, 2019

เกาหลีใต้ ลอกเรียน (ลอกแล้วเรียน) จนได้ดี

เกาหลีใต้ รวยมาได้ยังไง?
จากหนังสือเรื่อง Imitation to Innovation, The Dynamics of Korea’s Technological Learning
คำตอบคือ รวยมาได้จากการ ลอกเรียน (ลอกเลียน + ต่อยอด)

การสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ไม่จำเป็นต้องมาจากการมันสมองของเราทั้งหมด
กวีที่ไม่บรรลุ...ลอกเลียน
กวีที่บรรลุ...ขโมย
กวีชั้นแย่...ทำงานผู้อื่นเสียโฉม
กวีชั้นยอด...ทำงานผู้อื่นดีขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้แตกต่างออกไป
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใหม่ในโลกเองทั้งหมด บางส่วนต้องอาศัยการลอกเลียน ต่อยอด (ลอกแบบมีศิลปะ ต่อยอดจากของเดิม = ลอกเรียน)

ประเทศมหาอำนาจล้วน ‘ลอกเลียน’ และ ‘ลอกเรียน’ มาแล้วทั้งสิ้น

อเมริกาที่บอกคนอื่นทั้งโลกว่า ห้ามละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่...
ปี 1790 กฎหมายลิขสิทธิ์ของอเมริกา คุ้มครองเฉพาะงานของคนในสหรัฐ แปลว่า งานของต่างประเทศตนเองสามารถลอกได้
อเมริกาไม่ยอมเข้าอนุสัญญาเบิร์น ซึ่งเป็นความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์ ไม่ยอมเข้าร่วมจนถึงปี 1989 เพื่อลอกหนังสือยุโรป เช่น นวนิยายดี ๆ ของ Charles Dickens ลอกมาแล้วตีพิมพ์ให้อ่านในราคาถูก

ญี่ปุ่น ไม่คุ้มครองสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ จนถึงปี 1976 พูดง่าย ๆ คือ copy คนอื่น ดัดแปลง จนตัวเองเก่ง แล้วจึงทำให้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเข้มงวดขึ้น
เช่น Sony ลอกแนวคิดของสหรัฐ เอามาผลิตวิทยุทรานซิสเตอร์

เกาหลี
ปี 1976 Samsung ต้องการผลิตเตาอบไมโครเวฟ แต่ไม่มีใครให้เทคโนโลยี จึงไปซื้อไมโครเวฟของคนอื่นมา วิศวกรทำงานหนัก ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายลอกเรียนจนสำเร็จ
ญี่ปุ่นและสหรัฐเห็นว่าเริ่มเก่ง จึงถ่ายทอดเทคโนโลยีเพิ่มเติมให้
ปี 1994 Samsung กลายเป็นเบอร์สองของโลกเรื่องการผลิตเตาอบไมโครเวฟ

ปี 1986 Hyundai อยากผลิตรถเก๋งขนาดเล็กหรือ compact car แต่ญี่ปุ่นไม่ให้เทคโนโลยี จึงออกแบบรถโดยลอกเรียนรถญี่ปุ่น ลองเปลี่ยนมาหลายแบบ กว่าจะผลิตเครื่องยนต์ได้
ปี 1995 Hyundai สามารถผลิตเครื่องยนต์คุณภาพสู้ญี่ปุ่นได้

สรุปคือ วิธีการลอกเรียนให้สำเร็จ
1. ยืนหยัด ไม่ยอมแพ้
2. กฎหมายยอมให้ทำ